C'est Nueng
วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
เคพกูสเบอร์รี่
เคพกูสเบอร์รี่ อีกหนึ่งแห่งความสุดยอดในสายเบอรรี่.!!!
ใครที่เคยไปท่องเที่ยวตามภาคเหนือของบ้านเรา อาจจะคุ้นตากับ สกุลเบอร์รี่ที่ว่า รูปร่างหน้าตาเป็นผลกลมๆ เล็กๆ ประมาณลูกพุทรา เมื่อผลสุกจะเป็นสีเหลืองอมส้ม ซ่อนอยู่ในกลีบบางๆสีเหลืองอ่อน เหมือนฟางข้าว ชาวเขาที่นำมาขาย แต่ใครจะรู้บ้างว่าเจ้าผลไม้นี้จะแฝงไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย มาครับตามาฟังกัน
Cape Gooseberryหรือเรียกชื่อไทยๆว่า “โทงเทงฝรั่ง” เป็นผลไม้ในกลุ่มเบอร์รี่ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศโคลอมเบีย เอกวาดอร์ เปรู และชิลี รวมทั้งในบราซิล
ในประเทศไทยก็มีโทงเทงสายพันธ์ุท้องถิ่นอยู่ โทงเทงไทยเป็นวัชพืชที่ขึ้นง่ายขยายพันธุ์รวดเร็ว ลำต้นและรูปทรงใบต่างจากเคพกูสเบอร์รี่โดยสิ้นเชิง โดยผลมีขนาดผลเล็กกว่ามาก รูปทรงของผลและสีต่างจากโทงเทงฝรั่ง และรสชาติก็ต่างกัน โดยโทงเทงไทยจะมีรสชาติเฝื่อนและขมละม้ายคล้ายมะเขือมากกว่า มีสรรพคุณทางยา โดยโทงเทงไทยถือเป็นยาเย็น ช่วยแก้ไขตัวร้อน ขับเสมหะ แก้ไอเจ็บคอ และยังลดอาการอักเสบในลำคออีกด้วย
ส่วนโทงเทงฝรั่ง (เคพกูสเบอร์รี่) ที่มีรูปทรงรวมๆอาจเหมือนโทงเทงไทย แต่ขนาด สี รสชาติต่างกัน อุดมไปด้วยวิตามิน C ที่มีคุณสมบัติป้องกันไข้หวัด (2009) และโรคภูมิแพ้ได้ ซึ่งปริมาณวิตามิน C ในเคพกูสเบอร์รี่สูงเป็นสองเท่าของมะนาวเหลือง(Lemon)เลยทีเดียว อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
และยังมีวิตามิน A ที่ช่วยป้องกันอาการตาบอดในที่มืด ทำให้สายตาดีขึ้น ช่วยให้ผิวพรรณสวยสดใส ผมสวยดกดำ นอกจากนี้ยังเป็นผลไม้ที่มีโปรตีนสูง มีวิตามิน บี1 และบี 2 และยังพบสารแคโรทีนอยด์ที่เป็นสารช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและและโรคหัวใจอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : http://www.lovefitt.com/
เรียบเรียงและโพสต์โดย : แอดมิน สุญญตา (เพจความรู้รอบตัว)