10. หาดพลาญ่า เดอ คูวาส มาร์, ประเทศสเปน
หาดแห่งนี้เป็นหนึ่งในเขตพื้นที่อนุรักษ์ของชายฝั่งแอสทูเรียส ซึ่งมันตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำคูวาสพอดิบพอดี และในช่วงที่น้ำลด เราก็สามารถเดินไปตามทางหินปูนธรรมชาติเพื่อไปชมชายหาดที่สวยงามแห่งนี้ได้ เลย ซึ่งท้องทะเลสีเขียวมรกต ตัดกับหินปูนสีเทาบนท้องทะเลนั้น เกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม คุ้มค่ากับการมาเยือนให้เห็นกับตาสักครั้งเสียจริง ๆ
9. หุบเขาบัตเตอร์ฟลาย, ประเทศตุรกี
ถึงแม้ว่าตัวภูเขาที่ล้อมรอบชายหาดบริเวณอ่าวคาบัคใกล้เมืองโอลูเดนิซแห่ง นี้จะมีถนนตัดผ่าน แต่การเดินทางลัดเลาะหุบเขาลงไปเล่นน้ำทะเลก็ยากลำบากเหลือเกิน ดังนั้น ทางเดียวที่จะเข้าถึงตัวหาดท่ามกลางหุบเขาแห่งนี้ ก็คือ การนั่งเรือมาเท่านั้น และนอกจากทะเลอันสวยงามของที่นี่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืมแล้ว สิ่งพิเศษอีกอย่างที่เป็นที่มาของชื่อหาดบัตเตอร์ฟลาย ก็คือผีเสื้อมากมายกว่า 80 สายพันธุ์ที่เติมสีสันให้ที่นี่ดูสดใสขึ้นอีกนั่นเอง
8. อันเช่ คอคอส, สาธารณรัฐเซย์เชลล์
สำหรับคนที่ต้องการจะไปชมความงามของ อันเช่ คอคอส บนเกาะ ลา ดิกิว คุณสามารถเดินทางได้โดยการเดินเท้าผ่านหาด แกรนด์ อันเช่ หรือ เพทิท อันเช่ ส่วนใครที่อยากผจญภัยแบบลุย ๆ มากกว่านั้น ก็สามารถเลือกเดินป่าเข้ามาจากเกาะนิดไอเกิลได้เช่นกัน ซึ่งชายหาดแห่งนี้มีน้ำทะเลสีฟ้าใสงดงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ เลย แต่คุณจำเป็นต้องระวังในการว่ายน้ำอยู่สักหน่อย เพราะแม้ปกติทะเลที่นี่จะเงียบสงบ แต่นาน ๆ ทีก็เกิดคลื่นลมแรงจนเป็นอันตรายได้เหมือนกัน
7. อ่าวไวน์กลาส, ประเทศออสเตรเลีย
อ่าวที่มีรูปร่างคล้ายกับแก้วไวน์สมชื่อนี้ เข้าถึงยากอยู่สักหน่อย จากการที่เราต้องเดินเท้าร่วมชั่วโมงผ่านแนวป่าไม้ กว่าจะได้ยลโฉมทะเลแสนสวยแห่งนี้ แต่รับรองว่าความงามที่คุณจะได้พบคุ้มค่ากับความลำบากแน่นอนค่ะ เพราะน้ำทะเลสีฟ้าใสของที่นี่งามจับตาจริง ๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้นักผจญภัยได้ใช้ปีนเขากันด้วย ยิ่งไปกว่านั้นทางตอนใต้ของหาดซึ่งมีหินแกรนิตสูงชันราว 300 เมตรตั้งอยู่ เมื่อกระทบกับแสงพระอาทิตย์เกิดเป็นสีชมพูอ่อน ยังเป็นจุดชมวิวอาทิตย์ตกที่ขึ้นชื่อมากอีกต่างหาก
6. หาดฮิดเดน บีช, ประเทศเม็กซิโก
คุณจะพบว่าตัวเองอยู่บนเกาะส่วนตัวจริง ๆ และลืมความวุ่นวายไปเลยเมื่อได้ไปพักผ่อนที่ ฮิดเดน บีช ในเกาะมาริเอ็ตต้า เมือง เปอร์โต วัลลาร์ตา ประเทศเม็กซิโกนี้ เพราะที่ชายหาดใกล้อ่าวแบนเดอร่านี้ คือเกาะที่เกิดขึ้นจากภูเขาไฟ และเพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นาน ธรรมชาติของที่นี่จึงสมบูรณ์มาก โดยมันเป็นที่อยู่ของสัตว์ทะเลกว่า 103 ชนิด ซึ่งการที่ชายหาดแห่งนี้อยู่ห่างจากหมู่เกาะอื่น ๆ และเดินทางได้ด้วยเรือเท่านั้น ทำให้มันเหมือนสวรรค์บนดินที่แสนเงียบสงบเลยทีเดียว
5. หาดคาลา ดิ เอน เซอร์รา, ประเทศสเปน
ทางตอนเหนือของเกาะอิบิซาในประเทศสเปน คือที่ตั้งของ หาดคาลา ดิ เอน เซอร์รา ในหมู่บ้าน แซนท์ โจน ดิ ลาบริทจา ชายหาดขนาดเล็กรูปเกือกม้าแสนเงียบสงบ ซึ่งความงดงามของมันทำให้หนังสือพิมพ์ The Guardian newspaper ของประเทศอังกฤษ (www.guardian.co.uk) ยกย่องให้เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในโลกมาแล้ว นอกจากนี้ ทางตอนใต้ยังมีชายหาดขนาดเล็กที่ใกล้พอจะว่ายน้ำไปเยี่ยมชมได้เช่นกัน
4. หาดไวท์เฮเวน, ประเทศออสเตรเลีย
เรียกได้ว่า หาดไวท์เฮเวน ณ เกาะวิธซันเดย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในชายหาดที่งดงามที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยมันมีทรายที่ขาวสะอาดที่สุดในโลก ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ออกมาเป็นภาพที่สวยเหนือจินตนาการ โดยเฉพาะบริเวณเขาอินเลททางตอนเหนือของหาด ที่น้ำทะเลและทรายผสมปนเปกันคล้ายกับภาพวาด ซึ่งการจะมาที่นี่สามารถเดินทางได้โดยเรือเท่านั้น ปราศจากที่พักบนเกาะ และยังห้ามนำสุนัข รวมทั้งบุหรี่เข้าไปอีกด้วย มันจึงเป็นเหมือนเกาะที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ ถ้าคิดจะตักทรายนี้กลับไปเป็นที่ระลึก อาจต้องคิดเสียใหม่นะ เพราะคุณมีสิทธิ์เจอค่าปรับสูงสุดตั้ง 5 พันเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.4 แสนบาทได้เลย
3. หาดซลัตนี แรท, ประเทศโครเอเชีย
ด้วยรูปร่างที่แปลกตาน่าทึ่งของชายหาด ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายได้พักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวด้วยใน เวลาเดียวกัน เพราะส่วนเว้าของชายหาดมีพื้นที่พอสำหรับการผ่อนคลายแบบเงียบ ๆ ของทุกคน และนอกจากลักษณะที่โดดเด่นนี้แล้ว หาดซลัตนี แรทยังขึ้นชื่อมากสำหรับนักโต้คลื่นอีกด้วย เพราะลมแมเอสทรอลที่พัดอยู่บริเวณหาดนี้ ช่วยให้มันเหมาะสำหรับการโต้คลื่นมากทีเดียว
2. หาดนาวาจิโอ, ประเทศกรีซ
หรืออีกชื่อว่า Shipwreck Beach ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะซาคินทอส ประเทศกรีซนี้ ลึกลับถึงขนาดเคยถูกใช้เป็นช่องทางลักลอบขนสินค้าหนีภาษี รวมถึงค้ามนุษย์ในยุค 80 มาก่อน แต่ปัจจุบันมันได้กลายมาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศกรีซ ไปซะแล้ว และแทบทุกคนที่มาก็ต้องมาถ่ายรูปกับซากเรือแตกขนาดใหญ่ ที่ทอดตัวอยู่บนหาดทรายสีขาวนี้เสียด้วย โดยเชื่อกันว่ามันเป็นเรือของพวกโจรสลัดโบราณ ซึ่งถ้าใครมาแล้วลืมถ่ายรูปกับเรือนี้ล่ะก็...เรียกว่ามาเสียเที่ยวมาก ๆ เลยล่ะ
1. หาดโฮโนพู, สหรัฐอเมริกา
หากพูดถึงเรื่องความยากลำบากในการเข้าถึงตัวชายหาดแล้ว รับรองได้ว่าที่หาดโฮโนพู รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา แห่งนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่ไหนแน่นอน ทำไมน่ะเหรอ...ก็เพราะมันไม่มีถนนหนทางเข้าถึง หรือแม้แต่ทางปีนเขาไต่เข้าไปยังไงล่ะ แต่วิธีเดียวที่จะเข้าไปได้ ก็คือ การว่ายน้ำเข้าไปเท่านั้น โดยหาดโฮโนพูนั้นถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน และตรงมุมก็มีน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลงสู่ทะเล เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมากทีเดียว อย่างไรก็ดี แม้จะอยากชมความงามของที่นี่มากแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าการไปเยือนหาดโฮโนพูจะเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับทุกคนนะคะ เพราะกว่าจะว่ายไปถึงเกาะได้ ก็ต้องเป็นคนที่ว่ายน้ำแข็งพอสมควรเลยล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น